เลือกรถยนต์ให้เหมาะกับตัวเรา

การเลือกรถยนต์ให้เหมาะกับตัวเรา

          ในความคิดของหลายๆ คน รถยนต์ ถูกมองเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย และไม่มีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน แต่ด้วยวิถีชีวิต และความต้องการที่เปลี่ยนไป บวกกับระบบขนส่งมวลชล ที่ยังไม่ทั่วถึงมากพอ รถยนต์ จึงกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของใครหลายคน และเมื่อตัดสินใจจะซื้อรถสักคัน เชื่อว่าหลายคนคงมีคำถามเกิดขึ้นในใจว่าจะซื้อรถแบบไหนดี เลือกไม่ถูก เนื่องจากปัจจุบันมีรถให้เลือกมากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco Car) รถเก๋ง รถปิกอัพ หรือรถอเนกประสงค์ (SUV) ดังนั้นวันนี้จะมาแนะนำวิธีการเลือกรถยนต์ที่จะเหมาะกับตัวคุณกันเลยดีกว่า

  1. กำหนดปริมาณที่เหมาะสม เงิน คือข้อจำกัดข้อใหญ่ที่สุดในการเลือกซื้อรถ จะรู้ว่าควรซื้อรถราคาเท่าไหร่ ก็ต้องมาสำรวจตัวเอง ในเรื่อง รายรับ รายจ่าย เงินเก็บ และความจำเป็นในการใช้รถ และต้องคำนึงว่า นอกจากราคาค่าตัวรถแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายที่ตามมาอีกมากมาย
  2. เลือกรถให้เหมาะกับการใช้งาน รถแต่ละคันแต่ละประเภทถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ตอบสนองต่อการใช้งานด้านต่างๆ ที่แตกต่างกันออกไป ลองสำรวจตัวเองดูว่า ถ้าซื้อรถมา จะมาใช้งานแบบไหน ถ้าต้องขับในเมืองและเดินทางคนเดียว ต้องการประหยัดน้ำมันก็ลองมองหารถ ECO CAR หรือถ้าในงานในต่างจังหวัดที่ต้องเดินทางบ่อยเดินทางไกลก็ต้องมองหารถยนต์ที่จะรองรับการเดินทางระยะไกล เพื่อให้การใช้งานรถนั้นยืดยาวไม่เสื่อมง่าย
  3. ทดลองขับ ก่อนตัดสินใจ ทุกครั้ง เดี๋ยวนี้บริษัทผู้จำหน่ายรถยนต์จะมีโปรโมชันหรือมีคำแนะนำในการซื้อรถยนต์อยู่เสมอ แต่อย่างไรก็ตาม สิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็น ทดลองขับถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุด และเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการซื้อรถ เพราะมันสามารถแทนคำอธิบายหลายๆ อย่างได้ และจะทำให้ผู้ซื้อรับรู้ถึงความรู้สึกในการขับขี่ รวมทั้งได้สัมผัสการตอบสนองของรถที่จะซื้อว่าเป็นอย่างไร
  4. เลือกรถที่ชอบ  ด้วยปัจจุบันมีรถหน้าตาดูดี ออกมามากมายหลายแบรนด์ ทุกแบรนด์ มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป แต่ควรจะเลือกรถที่เราชอบมากกว่ารถที่คนรอบตัว หรือเพื่อนๆ แนะนำ เพราะ เราต้องอยู่กับรถยนต์ไปนานอย่างน้อย 5-7 ปี หรืออาจนานกว่านั้น ดังนั้น ถ้าเราเลือกรถที่เราชอบ เราก็จะมีความสุขไปตลอดการขับขี่
  5. ศึกษาช่วงเวลาการเปลี่ยนโฉม รถยนต์ก็เป็นสินค้าที่มี Product Lifecycle มีอายุตลาดเฉลี่ย 5-10 ปี ซึ่งแต่ละช่วงเวลาของอายุการตลาด ก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป แล้วแต่ว่า ใครจะชอบซื้อตอนไหน โดยการเปลี่ยนโฉมจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ Model Change  ช่วงเปิดตัวรุ่นใหม่ทั้งคัน ได้รถที่มีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด และ Minor Change – หลังจากที่เปิดตัวมาประมาณ 2-3 ปี หรือช่วงกลางอายุตลาด รถแต่ละรุ่น จะมีการ “ปรับโฉม” ซึ่งจะเป็นการปรับปรุงรถคันเดิม ให้ลงตัวยิ่งขึ้นในหลายๆ ด้าน